User-agent: * Allow: / นิทานเซน Zentale

วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555

วิถีแห่งเซนของสตีฟ จอบส์

หายหน้าจากบล็อคไปนาน ขอกล่าวถึงคนดังคนหนึ่ง ที่ใครๆน่าจะรู้จัก บุคคลที่ใช้วิถีแห่งเซ็น ในการดำรงชีวิตได้จากโลกนี้ไปแล้ว


ทั้งนี้  ขอนำบทความจากหนังสือ จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 118 กันยายน 2553  ซึ่งเขียนโดย บุญสิตา มาลงในบล็อคนี้นะคะ

และพร้อมกันนี้ ขอร่วมไว้อาลัยถึง คุณ Steve Jobs ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ





วิถีแหงเซน' ของสตีฟ จอบส ซีอีโอแสนลานคาย Apple ยักษใหญวงการคอมพิวเตอร
แมจะเปนนักธุรกิจร่ำารวยระดับแสนลาน 


แตไมวาจะปรากฏกาย ณ ที่แหงใด หรือแมแตในงานเปดตัวผลิตภัณฑ ใหมของ Apple คนทั่วไปมักชินตากับภาพ สตีฟ จอบส ในชุดแตงกายเรียบงาย สวมเสือยืดคอเตาแขนยาวสีดํา ยี่หอ St. Croix กางเกงยีนสลีวายส รุน 501 และสวมรองเทากีฬายี่หอ New Balance รุน 992 เปนประจํา 


จน กลายเปนเอกลักษณประจําตัวของเขา 






สตีฟ จอบส หรือสตีเฟน พอล จอบส (Steven Paul Jobs) 


เปนนักธุรกิจชาวอเมริกัน ซีอีโอใหญแหงคาย Apple Inc. ยักษใหญในวงการคอมพิวเตอร ผูผลิตเครื่องคอมพิวเตอรสวนบุคคลเครื่องแรกของโลก รวมทั้งเปน ผูบริหาร ระดับสูงของคายพิกซารแอนิเมชันสตูดิโอ (Pixar Animation Studios)ดวย 


กวาจะถึงวันนี้ ชีวิตของซีอีโอใหญไดเผชิญปญหามานับครั้งไมถวน แตดวยหลักธรรม าสอนในพุทธศาสนานิกาย คํ เซน ที่เขาไดศึกษาเรียนรู ชวยใหเขากาวผานอุปสรรคทั้งปวงมาได

ชีวิตชวงแรก ไมไดปริญญา แตไดวิชา เริ่มสนใจศึกษาพุทธศาสนา
สตีเฟน พอล จอบส เกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ 1955 ที่เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอรเนีย สหรัฐอเมริกา เปน บุตรนอกสมรสของนักศึกษาสาวมหาวิทยาลัย กับศาตราจารยทางดานรัฐศาสตร


 มารดาแทๆ ยกเขาใหเปนบุตรบุญ ธรรมแกครอบครัว จอบสซึ่งมีหัวหนาครอบครัวเปนชางเครื่อง โดยขอสัญญาวา บุตรชายของเธอจะตองไดรับ การศึกษาระดับมหาวิทยาลัย 




เมื่อโตขึ้นจอบสเขาศึกษาตอที่ Reed College ในเมืองพอรตแลนด รัฐโอเรกอน ไดเพียง 6 เดือน ก็ลาพักเรียน เพราะไมเห็นความนาสนใจของสิ่งที่เขาเรียนอยู 


แตเขาก็กลับเขาศึกษาใหมอีก 1 ปครึ่ง โดยลงเรียนเฉพาะ คอรสที่ เขาสนใจ เชน การประดิษฐตัวอักษร (ซึ่งภายหลังเขาไดนําไปใชประโยชนในการออกแบบตัวพิมพของคอมพิวเตอร Macintosh) 




หลังจากนั้น เขาหยุดเรียนถาวรและไมไดศึกษาจนจบมหาวิทยาลัยตามที่มารดาแทๆ ของเขาหวังไว ในชวงเรียนมหาวิทยาลัยนี้เองที่จอบสเริ่มหันมาศึกษาพุทธศาสนานิกาย เซน 


เขาสนใจอานวรรณกรรมทางพุทธ ศาสนาหลายเลม และหนังสือที่มีอิทธิพล สูงสุดกับเขาคือ Zen Mind, Beginner’s Mind ซึ่งเขียนโดยชุนริว ซูซุกิ 


กลาวกันวา หลังการศึกษาหลักธรรมของเซน จอบสเริ่มมีความเชื่อวา การหยั่งรูโดยสัญชาตญาณนั้น กอใหเกิด ปญญา เขาจึงเริ่มฝกสมาธิในหองนอนแคบๆ ที่แชรรวมกับ แดเนียล คอตคีเพื่อนสนิท 
ทามกลางกลิ่นธูป

ออกแสวงหาตัวตนที่แทจริง
ในป 1974 จอบส ในวัย 19 ป ไดขอลาพักงานประจํา ที่เขาทําอยูในบริษัทเครื่องเลนวิดีโอเกมส Atari เพื่อเดินทาง ไปอินเดีย เปนเวลา 1 เดือน พรอมกับเพื่อนรัก แดเนียล คอตคี


เพื่อแสวงหาคําตอบเกี่ยวกับการรูแจงเห็นจริง ดานจิตวิญญาณ และเมื่อเดินทางกลับสหรัฐฯ อีกครั้งหนึ่ง 
เขาไดกลายเปนพุทธศาสนิกชน สวมเสื้อผาแบบอินเดีย โบราณและโกนศีรษะ





หลังจากนั้น เขาไดแวะเวียนไปที่ศูนยเซน ลอส อัลทอส ในเมืองลอส อัลทอส รัฐแคลิฟอรเนีย เปนประจํา ที่นี่เขา เริ่มฝกการบําบัดแบบกรีดรองดังๆ และรับประทานผลไมเปนอาหาร และผลไมที่เขาโปรดปรานเปนพิเศษก็คือ แอปเปล นั่นเอง 


ในป 1976 ขณะอายุ 21 ป จอบสไดเขาทํางานกับบริษัทฮิวเลตต-แพคการด และเริ่มตนศึกษาพุทธศาสนานิกาย เซนอยางจริงจังกับ โกบุน ชิโนะ โอโตโกวะพระอาจารยชาวญี่ปุน ที่ศูนยเซน ลอส อัลทอส 


(ซึ่งภายหลัง เมื่อ จอบสเขาพิธีแตงงานแบบเซน กับ ลอรีน เพาเวลในวันที่ 18 มีนาคม 1991 พระอาจารยโอโตโกวะไดมาเปน ประธานในพิธี)

เริ่มกอตั้งบริษัท Apple ดีไซนสินคาดวยแนวคิดเซน





ในป 1976 จอบสและเพื่อนสมัยเรียนที่ชื่อ สตีฟ วอซเนียกไดรวมกันกอตั้งบริษัท Apple Computer ขึ้นที่ โรงรถในบานของจอบส


 เครื่องคอมพิวเตอรเครื่องแรกที่จอบสกับวอซเนียกไดนําเสนอออกสูสายตาไดแกเครื่อง Apple I และเพียง 10 ปใหหลัง Apple ก็เติบโตจากคนเพียง 2 คนกลายเปนบริษัทใหญโตที่มีมูลคา 2 พันลาน ดอลลาร และพนักงานมากกวา 4,000 คน


จอบสเคยกลาวในการใหสัมภาษณกับนิตยสาร Wired ของอเมริกาวา มีคําคําหนึ่งในศาสนาพุทธ คือ จิตของผู เริ่มตน มันเปนสิ่งมหัศจรรยอยางยิ่งที่ทุกคนควรจะมีจิตของผูเริ่มตน” 


ซึ่งเขาอธิบายตอไปวา มันเปนจิตที่มองเห็น ทุกสิ่งทุกอยางตามความเปนจริง ซึ่งคอยๆทําใหเราตระหนักถึงแกนแทของสิ่งเหลานั้น จิตของผูเริ่มตน 


ก็คือการนํา หลักการของเซนมาปฏิบัติจริง เปนจิตบริสุทธิ์ที่ปราศจากอคติ การคาดหวัง การตัดสิน ความลําเอียงใหคิดวา จิต ของผูเริ่มตน เปนเหมือนจิตของเด็กนอย ซึ่งเต็มไปดวยความอยากรูอยากเห็น ความสงสัย และความ ประหลาดใจ 




ดวยความเชื่อดังกลาว สตีฟ จอบส จึงนําแนวคิดแบบเซนมาใชกับบริษัท Apple Inc ของเขา ในการออกแบบ รูปลักษณและการใชงานของสินคาใหมีแนวทางบริสุทธิ์ ครบถวนสมบูรณ และงายตอการใชงาน 


พบมรสุมชีวิต แตพิชิตดวยความรักในงาน
 เมื่อจอบสอายุ 30 ป หลังจากเพิ่งเปดตัว Macintosh เครื่องคอมพิวเตอรที่ดีที่สุดของตัวเองไดปเดียว 
เขาถูกไล ออกจากบริษัทที่ตนเองเปนผูกอตั้ง 


หลังจากทะเลาะกับผูบริหาร และกรรมการบริษัทก็เขาขางผูบริหารคนนั้น เรื่องนี้เปนความสูญเสียครั้งใหญในชีวิตของเขา


 จอบสกลาววา เขาไดสูญเสียสิ่งที่ไดทํามาตลอดชีวิตไปในพริบตา ถึงกับคิดจะออกจากวงการคอมพิวเตอรไปชั่วชีวิต เขาไมไดทําอะไรหลังจากนั้นอีกหลายเดือน 


แตแลวความรูสึกอยางหนึ่งก็สวาง ขึ้นขางในตัวของจอบส ซึ่งเขาคนพบวา ตัวเองยังคงรักในสิ่งที่ทํามาแลว ความลมเหลวที่ Apple ไมอาจเปลี่ยนแปลงความรักที่เขามีตอสิ่งที่ไดทํามาแลวได


 ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจเริ่มตนใหม ทั้งหมด 






ซึ่งตอมาเขาไดพบวา การที่เขาถูกไลออกจาก Apple ไดกลายเปนสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นในชีวิต เพราะภาระ อันหนักจากการประสบความสําเร็จในอดีตที่เขาแบกไวนน ไดถูกแทนที่ดวยความเบาสบายในการเริ่มตนขึ้นอีกครั้ง 

ซึ่งชวยปลดปลอยเขาใหเปนอิสระ นั่นก็คือเขาไดปลอยวางความสําเร็จเกานั้นลง และเริ่มตนใหมดวยใจที่เบาสบาย เบิกบาน เปนจิตของผูเริ่มตนอยางที่เขาเคยบอกไวนั่นเอง 


จอบสกลาววา ความลมเหลวเปนยาขม แตเปนสิ่งจําเปนสําหรับคนไข เมื่อชีวิตเลนตลกกับคุณ 


จงอยาสูญเสียความ เชื่อมั่นในสิ่งที่คุณรัก 






ดังนั้นคุณจะตองหาสิ่งที่คุณรักใหเจอ เพราะวิธีเดียวที่จะทําใหคุณเกิดความพึงพอใจอยางแทจริง คือการไดทําในสิ่งที่คุณเชื่อวามันยอดเยี่ยม และวิธีเดียวที่จะทําใหคุณส ามารถทําสิ่งที่ยอดเยี่ยมไดก็คือ คุณ จะตองรักในสิ่งที่คุณทํา และถาหากคุณยังหามันไมพบ อยาหยุดหาจนกวาจะพบ 


และคุณจะรูไดเองเมื่อคุณได คนพบสิ่งที่คุณรักแลว หลังจากนั้น เขาไดเริ่มตั้งบริษัทใหมชื่อ NeXT และ Pixar (ซึ่งขณะนี้เปนสตูดิโอผลิตการตูนที่ประสบความสําเร็จ มากที่สุดในโลก) 


ไดสรางภาพยนตรการตูนจากคอมพิวเตอรเปนเรื่องแรกของโลกนั่นคือ Toy Story 
สวน Apple ซึ่งไรเงาของจอบสนั้น ไมไดเฟองฟูขึ้นเลย 




ดังนั้นบริษัทฯจึงไดหันมาซื้อบริษัท NeXT เพื่อทําใหจอบส ไดกลับคืนสู Apple อีกครั้ง รวมทั้งเทคโนโลยีที่เขาคิดคนขึ้นที่ NeXT ก็ไดกลายเปนหัวใจในยุคฟนฟูของ Apple




ใชการเจริญมรณสติทุกวัน เปนเครื่องมือชวยการตัดสินใจในชีวิต
เมื่ออายุ 17 ป จอบสประทับใจขอความหนึ่งที่เขาไดอานจากหนังสือ ซึ่งสอนใหทุกคนมีชีวิตอยูโดยคิดวา วันนี้เปน วันสุดทายของชีวิต 


และตลอดชีวิตที่ผานมา เขาจะถามตัวเองในกระจกทุกเชาวา ถาวันนี้เปนวันสุดทายในชีวิตของ เขา เขาจะยังคงตองการทําสิ่งที่กําลังจะทําในวันนี้หรือไม 


ถาหากคําตอบเปนไมติดๆ กันหลายวัน เขาก็รูวา ถึง เวลาแลวที่เขาจะตองเปลี่ยนแปลง จอบสเลาวา วิธีคิดวาคนเราอาจจะตายวันตายพรุง เปนเครื่องมือที่สําคัญที่สุดเทาที่เขาเคยรูจักมา ซึ่งไดชวยใหเขา สามารถตัดสินใจครั้งใหญๆ ในชีวิตได 


เพราะเมื่อความตายมาอยูตรงหนา แทบทุกสิ่งทุกอยาง ไมวาจะเปนคว าม คาดหวังของคนอื่น ชื่อเสียงเกียรติยศ ความกลัวที่จะตองอับอายขายหนาหรือลมเหลว จะหมดความหมายไปสิ้น เหลือไวก็แตเพียงสิ่งที่มีคุณคามีความหมายและความสําคัญที่แทจริงเทานั้น






วิธีคิดเชนนี้ยังเปนวิธีที่ดีที่สุด ที่จะชวยใหคุณไมตกลงไปในกับดักความคิดที่วา คุณมีอะไรที่จะตองสูญเสีย เพราะความจริงแลว เราทุกคนลวนมีแตตัวเปลาๆ ดวยกันทั้งนั้น” 


จอบสพูดถึงความตายวา กลางป 2004 เขาไดรับการวินิจฉัยวาเปนมะเร็งตับออนชนิดรุนแรงและไมมีทางรักษา เขาจะมีอายุอยูไดไมเกิน 3-6 เดือน


 แพทยที่รักษาแนะนําใหเขากลับบานและจัดการสะสางภารกิจที่มีอยูให เรียบรอย ซึ่งความหมายก็คือให เตรียมตัวตายแตแลวในเย็นนั้นเมื่อแพทยไดตัดชิ้นเนื้อที่ตับออน ไปตรวจอยางละเอียด ผลปรากฏวา เขาเปนมะเร็งตับออน ชนิด ที่พบเพียงแค 1 เปอรเซนตของผูปวย ซึ่งรักษาไดดวยการผาตัด




 ในป 2009 จอบสเขารับการผาตัดเปลี่ยนถายตับที่ เมืองเมมฟส รัฐเทนเนสซี่ และกลับไปทํางานที่ Apple อีกครั้ง หลังลาหยุดเปนเวลา 6 เดือน


ซีอีโอใหญของ Apple กลาววา นี่เปนประสบการณเฉียดตายที่สุดของเขา ซึ่งทําใหเขาสามารถพูดไดเต็มปากยิ่ง กวาเมื่อตอนที่ใชความตายมาเตือนตัวเองเปนมรณานุสติ 


และเมื่อผานหวงเวลานั้นมาได เขาบอกวาความตายคือ ประดิษฐกรรมที่ดีที่สุดของ ชีวิตความตายคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงชีวิต 


เขาไดพูดถึงความตายไววา ไมมีใครอยากตาย แมวาคนที่อยากขึ้นสวรรค ก็ไมอยากตายเพื่อจะไดไปที่นั่น แตเราทุกคนตองตาย ไมมีใครรอด พนไปได 




ดังนั้นความตายก็คือตัวเปลี่ยนแปลงชีวิต มันจะกําจัดคนเกาออกไป(ตาย) เพื่อเปดทางใหคนใหมไดเขามา (เกิด) ตอนนี้คนใหมก็คือพวกคุณ แตในไมชา พวกคุณก็จะคอยๆแก และถูกกําจัดออกไป(ตาย) 


นี่คือหลักความจริงจอบสไดเตือนวา เวลาของคุณจึงมีจํากัด และอยายอมเสียเวลามีชีวิตอยูในชีวิตของคนอื่น จงอยามีชี วิตอยูดวยผลจากความคิดของคนอื่น และอยายอมใหเสียงของคนอื่นๆ มา กลบเสียงที่อยูภายในตัวของคุณ


 และที่สําคัญที่สุดคือ คุณจะตองมีความกลาที่จะกาวไปตามที่หัวใจคุณปรารถนาและสัญชาตญาณของคุณจะพาไป เพราะหัวใจและ สัญชาตญาณของคุณรูดีวาคุณตองการจะเปนอะไร” 


ทุกวันนี้ จอบสในวัย 55 ปยังคงถือปฏิบัติตามแบบเซน ที่มีวิถีแหงความเรียบงายแตลุมลึก และเขามักอางคําพูด ของอาจารยเซนหลายๆทาน และหลักปรัชญาเซน ในระหวางการแสดงสุนทรพจนในที่ตางๆ


9 คําพูดที่ดีที่สุดที่คัดเลือกมานี้ จะชวยใหคุณทํางานไดสําเร็จตามสไตลซีอีโอแสนลาน 




1. สตีฟ จอบส พูดวา นวัตกรรมเปนสิ่งที่ทําใหเกิดความแตกตางระหวางผูนําและผูตาม” 


นวัตกรรมหรือวิธีการใหม เปนสิ่งไรขีดจํากัด มีเพียงจินตนาการเทานั้นที่มีขอบเขต ถึงเวลาแลวที่คุณตองเริ่มคิด นอกกรอบ ถาคุณทํางานในภาคธุรกิจที่กําลังเติบโต 


ตองรูจักคิดหาทางทํางานใหมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทําให ลูกคาพึงพอใจ และอยากจะทําธุรกรรมดวย แตถาคุณอยูในธุรกิจที่กําลังหดตัว ตองรีบออกมาจากธุรกิจนั้นโดยเร็ว 


และเปลี่ยนแปลงกอนที่คุณจะกลายเปนคนตกยุค ตกงาน หรือธุรกิจลมสลาย และตองจําไวเสมอวา คุณจะ ผลัดวันประกันพรุงไมได ตองเริ่มเปลี่ยนแปลงเดี๋ยวนี้ 


2. สตีฟ จอบส พูดวา จงเปนคนที่มีคุณภาพสูง คนบางคนไมเคยชินกับการอยูในสภาพแวดลอมที่คาดหวังความ เปนเลิศ” 


ไมมีหนทางลัดสูความเปนเลิศ คุณจะตองตั้งใจและใหความสําคัญ ใชความสามารถ ทักษะ และพรสวรรคที่มี พยายามทําใหมากกวาคนอื่น มีมาตรฐานสูงกวา และใสใจในรายละเอียดที่ทําใหเกิดความแตกตาง ความเปนเลิศ ไมใชเรื่องยาก แตคุณตองลงมือทําทันที แลวคุณจะประหลาดใจในสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นในชีวิต


3. สตีฟ จอบส พูดวา วิธีเดียวที่จะทํางานใหไดผลดีเยี่ยม คือ คุณตองรักในสิ่งที่ทํา ถาคุณยังไมเจอสิ่งที่รัก ในตอนนี้ จงมองหาไปเรื่อยๆ อยาดวนสรุป เพราะมันเปนเรื่องของหัวใจ คุณจะรูไดเอง เมื่อเจอสิ่งที่รัก


จงทําในสิ่งที่รัก มองหาอาชีพการงานที่ทําใหคุณมีจุดประสงค ทิศทาง และความพึงพอใจในชีวิต เมื่อคุณมี เปาหมายและพยายามไปใหถึง มันจะทําใหชีวิตของคุณมีความหมาย ทิศทาง และความพอใจ ซึ่งไมเพียงชวยใหมี สุขภาพดีและอายุยืนยาว แตยังจะชวยใหคุณรูสึกดีขึ้นเมื่อตองเผชิญอุปสรรค 






4. สตีฟ จอบส พูดวา คุณก็รูวา อาหารสวนใหญที่เรากิน เราไมไดผลิตดวยตัวเราเอง เราสวมใสเสื้อผาที่คนอื่น ผลิต เราพูดภาษาที่คนอื่นพัฒนาขึ้น เราใชคณิตศาสตรที่คนอื่นคอยๆปรับปรุงมาเรื่อยๆ ผมหมายถึงวา เราเปนฝาย รับอยูตลอดเวลา


 ฉะนั้น คงเปนความรูสึกที่นาปลาบปลื้มอยางยิ่งที่เราสามารถสรางสรรคบางสิ่งบางอยาง ที่เปน ประโยชนตอมวลมนุษยชาติ” 


จงใชชีวิตตามหลักศีลธรรม พยายามทําใหเกิดความแตกตางบนโลกใบนี้และมีสวนรวมใหเกิดสิ่งที่ดีงามยิ่งขึ้น คุ ณ จะพบวา มันจะทําใหชีวิตของคุณมีความหมายมากยิ่งขึ้น 


แถมยังเปนยาแกความเบื่อหนายที่ไดผลดีอีกดวย ลอง มองไปรอบๆตัว แลวคุณจะพบวา มีสิ่งตางๆใหคุณทําอยูเสมอ และจงพูดคุยกับผูอื่นถึงสิ่งที่คุณกําลังทํา 


แตอยา พร่ำสอน หรือคิดวาตัวเองถูกตอง หรือหลงตัวเอง เพราะจะทําใหคนอื่นไมอยากคุยดวย 


ขณะเดียวกัน คุณตองไม กลัวที่จะทําตนเปนตัวอยาง และใชโอกาสที่มี บอกเลาถึงสิ่งที่คุณกําลังทํา 


5. สตีฟ จอบส พูดวา มีคําพูดในพุทธศาสนาวา จิตของผูเริ่มตน มันเปนสิ่งมหัศจรรยอยางยิ่งที่ทุกคนควรจะมีจิต ของผูเริ่มตน 


ซึ่งเขาอธิบายตอไปวา มันเปนจิตที่มองเห็นทุกสิ่งทุกอยางตามความเปนจริง ซึ่งคอยๆทําใหเราตระหนักถึงแกนแทของสิ่งเหลานั้นจิตของผูเริ่มตน ก็คือการนําหลักการของเซนมาปฏิบัติจริง 


เปนจิตบริสุทธิ์ที่ปราศจากอคติ การคาดหวัง การตัดสิน ความ ลําเอียง ใหคิดวา จิตของผูเริ่มตน เปนเหมือนจิตของเด็กนอย ซึ่งเต็มไปดวยความอยากรูอยากเห็น ความสงสัย และความประหลาดใจ 


6. สตีฟ จอบส พูดวา เราคิดวา โดยทั่วไปแลว คุณดูโทรทัศนเพือพักสมอง และคุณใชคอมพิวเตอร เมื่อตองการ ่ ใหสมองทํางาน 


ในรอบ 10 ปที่ผานมา มีรายงานการศึกษาจํานวนมากที่ยืนยันหนักแนนวา การดูทีวีสงผลเสียดานจิตใจและมี อิทธิพลดานศีลธรรม และคนที่ติดทีวีสวนมาก แมจะรูวา มันทําใหชินชาและเสียเวลาโดยเปลาประโยชน แตก็ยังใช เวลาสวนใหญนั่งอยูหนาจอสี่เหลี่ยม 


ดังนั้น จงปดทีวีซะ เพื่อถนอมเซลลสมอง แตตองระวัง เพราะการใช คอมพิวเตอรก็อาจเปนการพักสมองไดเชนกัน ลองเปลี่ยนมาเลนเกมที่พัฒนาสติปญญาดีกวา




7. สตีฟ จอบส พูดวา ผมสูญเงินไป 250 ลานดอลลารภายใน 1 ป มันทําใหผมรูจักตนเองดีขึ้น” 


อยามองวา การทําผิดกับความผิดเปนเรื่องเทาเทียมกัน เพราะคนที่ประสบความสําเร็จ โดยไมเคยลมเหลวหรือทํา ผิดเลยนั้น ไมมีหรอก


 มีแตคนที่ประสบความสําเร็จ เคยทําผิดพลาดและรูจักเปลี่ยนแปลงแกไข เพื่อทําใหถูกต้องในครั้งตอไป 


พวกเขามองความผิดพลาดเปนเครื่องเตือนสติ มากกวาความสิ้นหวัง


 การไมเคยทําผิดเลย แสดงวา คน นั้นไมเคยใชชีวิตอยางเต็มที่ 


8. สตีฟ จอบส พูดวา ในโลกนี้ไมเคยมีใครที่ไมเคยทําผิดพลาด เราเกิดมาบนโลกใบนี้แลวก็ไดทําสิ่งผิดพลาด เชนกัน ไมงั้นแลว เราจะเกิดมาทําไม 


คุณรูหรือไมวา มีเรื่องใหญๆหลายเรื่องที่ตองทําใหสําเร็จในชีวิต และรูหรือไมวา เรื่องสําคัญเหลานั้นจะถูกฝุนจับ เมื่อคุณใชเวลามัวแตนั่งคิดมากกวาลงมือทํา เราทุกคนลวนเกิดมาพรอมของขวัญชิ้นหนึ่งที่จะมอบใหกับชีวิตของ เราเอง 


ของขวัญที่เต็มไปดวยความปรารถนา ความสนใจ ความหลงใหล และความอยากรูอยากเห็น ของขวัญชิ้นนี้ แทจริงแลว มันคือเปาหมายของเรานั่นเอง 


และคุณตั้งเปาหมายของคุณไดโดยไมตองขออนุญาตใครทั้งสิ้น ไมวาจะ เปนหัวหนางาน ครู พอแม นักบวช หรือเจาหนาที่ ก็ไมอาจเลือกเปาหมายใหคุณได 


คุณตองหาจุดมุงหมายดวยตัว คุณเอง 


9. สตีฟ จอบส พูดวา เวลาของคุณมีจํากัด จงอยาเสียเวลาใชชีวิตตามแบบคนอื่น อยาติดอยูในหลักความเชื่อ ซึ่ง ทําใหคุณใชชีวิตตามผลความคิดของผูอื่น อยายอมใหเสียงความคิดของคนอื่น มากลบเสียงที่อยูภายในตัวของคุณ และทีสําคัญที่สุด คือ คุณตองมีความกลา ทีจะทําตามหัวใจปรารถนาและสัญชาติญาณ เพราะมันรูดีวา จริงๆแลว ่ คุณตองการเปนอะไร เรื่องอื่นๆกลายเปนเรื่องรองไปโดยสิ้นเชิง 



และในที่สุด ดังที่เขาได้กล่าวมา และรับรู้มาตลอด และทุกคนก็ได้รับรู้ว่า ไม่มีใครที่สามารถหลีกพ้นสัจธรรมของชีวิต


 ในวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 2011 หลังจากที่แอปเปิล ประกาศเปิดตัว ไอโฟน 4เอส ได้เพียงแค่วันเดียว 


แอปเปิลคอมพิวเตอร์ประกาศว่า สตีฟ จ็อบส์ เสียชีวิตอย่างสงบแล้วจากโรคมะเร็งตับอ่อนรุมเร้ามาตั้งแต่กลางปี ค.ศ. 2004 ด้วยวัยเพียง 56 ปี 


โดยในวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 2011 แอปเปิลได้จัดงานรำลึกถึงสตีฟ จอบส์ขึ้นมา โดยมีทิม คุก ถึงชีวิตของจอบส์ในแง่ต่างๆ และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จที่ผ่านๆ มาของจอบส์ ณ Apple Campus เมืองคูเปอร์ทิโน มลรัฐแคลิฟอร์เนีย




แต่คำพูด วิถีชีวิต แนวทาง และสิ่งที่ Steve Jobs ได้สร้างไว้กับโลกนั้น จะคงอยู่ตลอดไป






คุณเบื่อหรือเปลาตอการใชชีวิตตามความฝนของคนอื่น ไมตองสงสัยเลย ก็มันเปนชีวิตของคุณเอง คุณมีสิทธิใชชีวิต ในแบบที่คุณตองการ โดยไมตองมีใครมาคอยขัดขวาง ลองใหโอกาสตัวเองฝกความคิดริเริ่มในบรรยากาศที่ ปราศจากความกลัวและแรงกดดัน จงใชชีวิตตามแบบที่คุณเลือก และเปนเจานายตัวเอง 






What You Can Learn From Steve Jobs?