User-agent: * Allow: / ถ้าจะรักก็จงรักอย่างเปิดเผย

วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2553

ถ้าจะรักก็จงรักอย่างเปิดเผย

นิทานเซ็น เล่าโดย .. ท่านพุทธทาสภิกขุ เรื่อง ถ้าจะรักก็จงรักอย่างเปิดเผย



"If love, love openly" ถ้าจะรัก ก็จงรักอย่างเปิดเผย. ในวัดนิกาย เซ็น อีกเหมือนกัน มีภิกษุ อยู่หลายสิบรูป และมี นักบวชผู้หญิง ที่เรียกว่า nun อยู่คนหนึ่ง ชื่อ เอฉุ่น รวมอยู่ด้วย เอฉุ่น เป็นหญิง ที่สวยมาก แม้จะเอาผมออกเสียแล้ว แม้จะใช้ เครื่องนุ่งห่ม ของนักบวช ที่ปอนมาก ก็ยังสวยอย่างยิ่งอยู่นั่นเอง


 และความสวยนั้นก็ได้สร้างความวุ่นวายให้แก่ภิกษุทั้งหมดนั้นมาก แทบว่า จะไม่มีจิตใจที่จะสงบได้ ภิกษุองค์หนึ่งทนอยู่ไม่ได้ ก็เขียนจดหมาย ส่งไปถึง ขอร้อง ที่จะมีการพบ อย่าง private คือเป็นการขอพบ เฉพาะตัว เอฉุ่น ก็ไม่ตอบจดหมายนั้น อย่างไร แต่พอวันรุ่งขึ้นกำลังประชุมอบรมสั่งสอนกันอยู่ ซึ่งมีชาวบ้านจำนวนมากรวมอยู่ด้วย พอสั่งสอนจบลงเอฉุ่น ก็ยืนขึ้น กล่าวถึง ภิกษุนั้นว่า ภิกษุที่เขียนจดหมาย
ถึงฉันนั้น ขอให้ก้าวออกมา ข้างหน้า จากหมู่ภิกษุ เหล่านั้นเถิด ถ้ารักฉันมากจริงๆ ก็จงมากอดฉัน ที่ตรงนี้ แล้วนิทาน ของเขาก็จบ



นี่ท่านลองคิดดูเองว่า นิทานเรื่องนี้ จะสอนว่ากระไร ก็หมายความว่า การสอน การอบรม ที่ตรงไปตรงมา ตามแบบของนิกายเซ็นนั้นกล้ามาก ทำให้คนเรากล้าหาญมาก และไม่มีความลับที่จะต้องปิดใคร จะว่าอย่างไรก็ได้ไม่ต้องปกปิด

คือสามารถที่จะเปิดเผยตนเองได้ มีสัจจะ มีความจริง โดยไม่ถือว่าความลับมีอยู่ในโลกนี้


เราจะต้องเป็น ผู้ที่ปฏิญญาตัว อย่างไรแล้ว จะต้องทำอย่างนั้น ไม่มีความลับที่ปกปิดไว้ จนสะดุ้งสะเทือน แม้ในการที่จะเรียกตัวเองว่า "ครู" อย่างนี้ เป็นต้น บางคนกระดาก หรือ ร้อนๆ หนาวๆ ที่ว่า จะถูกเรียกว่า ครู หรือ จะถูกขอร้องให้ยืนยันปฏิญญาความเป็นครู นี้แสดงว่า ไม่เปิดเผยเพียงพอ ยังไม่กล้าหาญเพียงพอ จะกล้าปฏิญญาว่า เป็นครู จนตลอดชีวิตหรือไม่ ยิ่งไม่กล้าใหญ่ใครกำลังจะ ลงเรือน้อย ข้ามฟาก ไปฟากอื่น ซึ่งไม่ใช่ นครของพวกครูบ้าง ก็ดูเหมือนไม่กล้าเปิดเผยเพราะเราไม่ชอบ ความกล้าหาญ และเปิดเผย กันอย่างสูงสุด เหมือน อย่างคน ในเรื่องนิทานนี้